ปลายปี พ.ศ. 2564 เจ็ดเส้นทางรถไฟทางคู่ ขอนแก่น-หนองคายกำลังจะกลับมา

        เจ็ดเส้นทางรถไฟทางคู่   ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีโครงการการจัดทำเส้นทางรถไฟคู่ขนานโดยมีความคิดว่าจะมีการเปิดเส้นทางการเดินรถเพิ่มเพื่อที่จะได้เดินทางได้อย่างสะดวกโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆที่มักจะเกิดปัญหารถติดอีกทั้งยังเป็นการเปิดหนทางที่เราจะสามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศอื่นๆได้

ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีนหรือประเทศลาวเพื่อที่จะสามารถขนส่งสินค้าผ่านทางรถไฟและรถยนต์ได้นั่นเองซึ่งโครงการนี้ในเฟสแรกนั้นได้มีการสร้างรอไปก่อนแล้วบางส่วนและมีการหยุดชะงักลงมาเป็นเวลานานแล้ว

แต่ในขณะนี้กำลังมีการยื่นเรื่องเข้ามาที่สหพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติใหม่อีกครั้งหนึ่งเพื่อทำเรื่องขอการกลับมาสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่อีกรอบนึงโดยครั้งนี้จะเป็นการสร้างเส้นทางคู่ระหว่างขอนแก่นกับหนองคายซึ่งถ้าสร้างเสร็จแล้ว

มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะมีการเชื่อมต่อเส้นทางออกไปยังประเทศจีนกับประเทศลาวได้ซึ่งถ้าหากทำได้แล้วเสร็จ 100% ก็จะทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างไทยไปยังจีนหรือไทยไปยังราวนั้นสะดวกสบายมากขึ้น

เจ็ดเส้นทางรถไฟทางคู่  และแน่นอนว่าด้วยการคมนาคมที่ดีขึ้นและทำให้การค้าขายระหว่างประเทศทั้งไทยทั้งจีนและลาวค้าขายได้คล่องขึ้นง่ายขึ้นส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้นนั่นเองเพราะปัจจุบันนี้ปัญหาของการค้าขายระหว่างประเทศนั้นอีกในเรื่องของการขนส่งที่ต้องเสียค่าขนส่งแพง

เนื่องจากถ้าเป็นการขนส่งผ่านทางอากาศก็จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงแต่ถ้าขนส่งทางเรือถึงแม้ว่าค่าขนส่งจะถูกหน่อยแต่ก็ใช้ระยะเวลาในการขนส่งนานดังนั้นการทำเส้นทางขนส่งทางบกโดยมีการทำเป็นรถไฟหรือทำถนนเพิ่มขึ้นมา

จะช่วยลดระยะเวลาในการขนส่งได้และค่าใช้จ่ายก็ยังถูกกว่าการขนส่งทางอากาศอีกด้วยจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้นักธุรกิจต่างๆหันกลับมาเปิดธุรกิจระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้นเพราะต้นทุนในการขนส่งนั้นลดน้อยลงนั่นเองอย่างไร

ก็ตามในเรื่องของการสร้างถนนคู่ขนานนี้อาจจะต้องใช้ระยะเวลาหลายปีกว่าจะมีการแล้วเสร็จซึ่งมีการคาดการณ์ว่าน่าจะช่วงประมาณปี 2580 ประเทศไทยและประเทศลาวรวมถึงประเทศจีนจึงจะสามารถเชื่อมต่อถนนเส้นต่างๆที่มีการวางอนาคตไว้นี้แล้ว

เสร็จซึ่งขณะนี้ทางด้านกระทรวงคมนาคมกำลังเปิดให้มีการประมูลโครงการนี้อยู่ว่าใครที่จะสามารถเป็นผู้ได้รับการประมูลและได้สร้างถนนเส้นทางนี้เพราะอย่าลืมว่าถ้าหากประมูลผ่านก็จะได้เงินเป็นจำนวนมหาศาลจากการสร้างถนนหนทางเส้นรถไฟทางคู่นี้เลยทีเดียว

นับได้ว่าโครงการที่จะสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่นั้นเป็นโครงการระยะยาวซึ่งต้องใช้จำนวนเงินมากมายมหาศาลแต่ถ้าหากสร้างเสร็จได้ก็จะทำให้ระบบการขนส่งระหว่าง 3 ประเทศนั้นสะดวกสบายและครบวงจรเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.   gclub slot เล่นผ่านเว็บ

ปัญหาขาดทุนการบินไทย จริงๆ แล้วอยู่ที่ตรงไหน

หลังจากที่มีข่าวมานานนับเดือนเกี่ยวกับสถานภาพของสายการบินไทยที่กำลังเข้าสู่กระบวนการยื่นล้มละลาย และกำลังจะดำเนินแผนการฟื้นฟูกิจการ ปัญหาขาดทุนการบินไทย ซึ่งผู้เกี่ยวข้องหลายๆฝ่ายต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็น

โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นการแสดงความคิดเห็นในเชิงโยนความผิดให้คนอื่นซะเป็นส่วนใหญ่ และมักจะบอกว่าที่สายการบินไทยประสบปัญหาการขาดทุนนั้นไม่ใช่เป็นเพราะการบริหารงานของรุ่นตัวเอง แต่เป็นมาตั้งแต่ต้น

ปัญหาขาดทุนการบินไทย หรือจะเป็นการออกมาบอกว่าเพราะโครงสร้างภายในมันเละ จนล่าสุดโยนความผิดไปถึงการที่โยนไปให้พวกเอเย่นต์ ว่ารวมตัวกันขอค่าคอมมิชชั่นกันมากเกินไป จนล่าสุดกลุ่มเอเย่นต์ยักษ์ใหญ่หลายๆบริษัท ได้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมและได้อธิบายถึงความเป็นจริง

ที่ทำธุรกิจกับสายการบินไทยมาอย่างยาวนานแล้วว่า เดิมพวกเค้าเองนั้นจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากหน้าตั๋ว 9% ต่อมามีการปรับลดเหลือ 7% ในปี 2000

และเหลือ 0% ในปี 2008 ภายใต้นโยบาย Zero Commission ซึ่งนั้นหมายความว่าพวกเค้าไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นนี้มาเกือบ 10 ปีแล้ว

จนทุกวันนี้รายได้ที่เกิดจะมาจากการคิดค่าบริการจากลูกค้าแทนต่างหาก และทั้งนี้ในปี 2019 การบินไทยมียอดขายตั๋วทั่วโลกอยูที่ประมาณ 130 พันล้านบาท คิดเป็นยอดขายของประเทศไทยประมาณ 31 พันล้านบาท

ซึ่งแบ่งเป็นยอดขายผ่านเอเย่นต์ 16 พันล้านบาท คือ 52%

และยอดขายผ่าน Web การบินไทย 9 พันล้านบาท (29%) และยอดขายผ่านสำนักงานการบินไทย 6 พันล้านบาท (19%) โดยจากรายงานที่ทางการบินไทยทำสรุปมานั้น มีหลายจุดที่ทำให้เอเย่นต์ต่างตั้งข้อสงสัยที่โยนปัญหาขาดทุนมาให้พวกเค้านั้น คือ

การขายตั๋วโดยการบินไทยเองที่อ้างถึง 30% นั้นไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่มีสัดส่วนขายโดยการบินไทยเอง

ค่าคอมมิชชั่นเอเย่นต์ที่ได้มากล่าวอ้างว่าต้องจ่ายให้ถึง 18 พันล้านบาทนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะเป็นจำนวนที่สูงกว่ายอดขายผ่านเอเย่นต์ทั้งหมดที่รวมกันแล้วได้แค่ 16 พันล้านบาทเสียอีก

ซึ่งการโยนความผิดและไม่รับผิดชอบว่าสายการบินไทยเองที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้มันเกิดขึ้นมา ทั้งในเรื่องของวิสัยทัศน์ในการบริหารของผู้นำองค์กรแต่ละรุ่นก็ดี ปัญหาโครงสร้างที่ถูกฝังรากลึกกับผลประโยชน์ของเหล่าพนักงานรุ่นอาวุโส ที่คอยเกาะกินแทะเล็มผลประโยชน์

จนรากงอก ไม่เปิดโอกาสให้พนักงานรุ่นใหม่ที่มีไฟในการทำงานเข้ามาทำงานแทนที่ หรือแม้แต่ปัญหาที่เอื้อเอเย่นต์ชาวต่างชาติ มากกว่าเห็นค่าของเอเย่นต์ ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทยด้วยกันเองนั้น แค่นี้ก็เพียงพอแล้วว่าทำไมสายการบินไทย ที่เกิดปัญหาเช่นนี้ตลอดมา

 

สนับสนุนโดย.   gclub slot เล่นผ่านเว็บ