เอเลี่ยนที่เชื่อกันว่ามีอยู่จริงที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด

เอเลี่ยนที่เชื่อกันว่ามีอยู่จริง ยังเป็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานในหลายๆฝ่ายเรื่องการมีตัวตนของเอเลี่ยนเนื่องด้วยจักรวารอันกว้างใหญ่ทำให้มนุษย์หลายคนเชื่อว่าเอเลี่ยนมีอยู่จริง

ซึ่งหลายประเทศเชื่อว่าผู้กุมความลับนี้คือประเทศสหรัฐอเมริกาในประเทศสหรัฐอเมริกาเชื่อว่าแท้ที่จริงแล้วสหรัฐมีสองรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและระบอบมืดหรือรัฐบาลเงาและวันนี้เราจะมาเปิดเผยเรื่องราวความลับเกี่ยวกับการพบเจอที่ถูกนำเอามาเปิดเผยว่า เอเลี่ยนมีตัวตนอยู่จริง

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดยนักฟิสิกส์นิวเคลียร์อดีตผู้เขียนหนังสือMillennial Hospitality iv After Hoursกับเรื่องราวที่ได้ถูกเขียนเอาไว้ในหนังสือของเขาได้นำมาที่น่าสนใจของการมีตัวตนอยู่ของเอเลี่ยนที่เรียกว่า ทอไวท์เอเลี่ยนเผ่าพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดอยู่ใกล้กับดาวอาคทูรัด

โดยพวกทอไวท์ที่โตเป็นผู้ใหญ่จะสูงราว6ฟุตและโดยทั่วไปจะมีลักษณะเด่นๆเหมือนมนุษย์มีผมสีบอนท์โดยทั่วไปผมจะสั่นส่วนผู้เห็นจะมีผมสั่นแบบผู้หญิงยาวไปจนข้างศีรษะมีดวงตาสีฟ้าและมีตาโตกว่ามนุษย์พวกทอไวท์ดูเหมือนมนุษย์มากเว้นแต่สีผิวจะขาวเหมือนช็อค

นอกจากนี้ชุดของพวกทอไวท์เป็นอลูมินั่มจั้มสูทแบบสีขาวช็อคดูคล้ายกับผ้าใบพวกมันยังสวมถุงมือด้วยวัตถุแบบเดียวกันและสวมหมวกที่ดูคล้ายกับหมวดกันน็อคที่เปิดด้านหน้าทั้งชุดที่ใส่และหมวกจะเป่งแสงสีขาวอ่อนๆรัศมีสามนิ้วออกมาความเข้มของแสงจะมีตั้งแต่อ่อนจนถึงสว่างมากๆจนไม่สามารถมองได้โดยไม่เพ่งสายตา

เนื่องจากนี้พวกทอไวท์ยังมีสติปัญญาที่ฉลาดมากการประมวลผลข้อมูลจะเร็วกว่ามนุษย์ที่ฉลาดๆประมาณ3.5เท่าจะมีอายุยืนยาวประมาณ600-800ปีรูปร่างคล้ายมนุษย์แต่เปราะบางกว่าสาเหตุที่มนุษย์โลกตั้งชื่อเผ่านี้ว่า ทอไวท์ ก็เพราะว่าการเจริญเติบโตของมนุษย์พันธุ์นี้จะเริ่มเติบโตเพิ่มความสูงอีกครั้งที่อายุ40ปีของเขาแต่การสูงขึ้นในครั้งหลังจะไม่เป็นผลดีต่อเขาเอง

เพราะทางคุณ Charles Hall อ้างว่าอวัยวะภายในของเขาจะไม่เติบโตตอบสนองไปด้วยทำให้ความสูงของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนไปถึงในจุดที่มันเป็นอันตรายอาจจะสูงได้มากที่สุด7-9ฟุตเลยทีเดียวและรับประทานอาหารประเภทพืชเท่านั้นเทคโนโลยีของพวกทอไวท์ล้ำหน้าไปมาก

เช่นทรามสปอร์ตเตอร์สูทที่ทำให้ร่างกายต้านแรงดึงดูดและลอยขึ้นใช้ในการเคลื่อนที่เหนือพื้นผิวเช่นเดีเช่นเดียวกับการป้องกันการโจมตีด้วยพอทฟิวทำให้ลูกกระสุนช้าลงและตกลงสู่พื้นเทคโนโลยีอื่นๆที่สำคัญก็คือยานอวกาศพวกมันใช้ยานอวกาศที่มีขนาดเล็กกว่าในการขนส่งคนในจำนวนจำกัด

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย   ufabetฝ่ายบริการ

เศรษฐกิจไทยปีหน้าฟื้นตัวยากโตช้ารั้งท้ายในภูมิภาค

เศรษฐกิจไทยปีหน้าฟื้นตัวยาก ซึ่งประเทศไทยไตรมาสที่2ติดลบ12.2%คำถามคือแล้วจะไปไหนต่อมาดูการคาดการณ์GDPของประเทศในอาเซียที่ได้ไปรวบรวมกันมา

โดยเฉพาะตัวเลขล่าสุดที่ทางธนาคารพัฒนาเอเซียหรือว่าADBประเมิลข้อความสำคัญที่ส่งออกมาก็คือประเทศไทยเราอาจจะอยู่ในกลุ่มท้ายๆประเทศไทยเราน่าจะได้รับผลหนักหนาที่สุดในภูมิภาคสำหรับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19เพราะเราพึ่งปัจจัยจากต่างประเทศอยู่เยอะทางภาคการส่งออก 

ซึ่งการส่งออกก็ต้องไปดูเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้า

โดยประเทศคู่ค้าตอนนี้ก็จะผลกระทบกันหมดจากโควิด-19ภายในประเทศบ้างอย่างเช่นการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในตอนนี้ก็หดลงไปต่ำกว่า10ล้านคนแล้วรายได้มันจะเหมือนเดิมได้อย่างไร

นอกจากนี้เรามาดูกันถ้าเปรียบเทียบตั้งแต่ เวียดนาม เมียนมา ดูให้ดีนะ เวียดนามเข้ามจว่าปีหน้า หน้าจะกระโดนเติบโตไปได้6.3%จากปีนี้ที่โตไม่ถึง2%เช่นเดียวกับเมียนมา บรูไรปีหน้าจะโตสัก3% อินโดนีเซียปีหน้าโต5.3%  สปป.ลาวปีนี้ติดลบอยู่2.5% ปีหน้าจะโตขึ้นมา4.5% 

เนื่องจากนี้เราต้องบอกทุกคนก่อนว่าการที่จะโตกลับหรือติดลบมันไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจจะกลับมาเฟื่องฟูหรือว่ามันจะไม่กลับไปจุดเดิมก่อนที่จะเกิดโรคระบาดโควิด-19อีกขยับมาดูที่กัมพูชาปีนี้ติดลบ4%ปีหน้าอาจจะโต5.9%  สิงคโปร์ปีนี้ติดลบอยู่4.2%ศูนย์กลางการเงินของภูมิภาคอย่างสิงคโปร์ก็ได้รับผลกระทบหนักและเราก็เห็นมารตการปิดเมืองของเขา 

ดังนั้นเขาก็ได้รับผลกระทบอย่างมากปีหน้า หน้าจะกลับมาโตได้4.5%ขนาดที่ฟิลิปปินส์ติดลบ7.3%ปีนี้จากการคาดการณ์ของADBปีหน้าจะโต6.5% ถ้ามาดูประเทศไทยปีนี้หลายส่วนมองว่าหน้าจะติดลบอยู่ที่8% โดย8%เยอะกว่าปี2541ที่เป็นปีถัดมาจากวิกฤตต้มยำกุ้งที่เศรษฐกิจหดตัวหนักที่สุด7%กว่าๆนี้จะหดตัว8%ในประวัติศาสตร์และปีหน้าเราไม่ได้กลับมาเติบโตปีหน้าคากดว่าหน้าจะเติบโต4.5%เท่านั้น

เพราะฉะนั้นแล้วถามว่าในอาเซียใครหดตัวเยอะมากที่สุดก็จะเป็นใครไม่ได้นอกจากประเทศไทยเรานี้แหละแต่เมื่อตอนฟื้นกลับมามันน้อยกว่าค่าเฉลี่ยด้วยซ้ำไปสาเหตุหลักๆนักท่องเที่ยวถือว่าเป็นเรื่องสำคัญถ้าไปดูนักท่องเที่ยวปีที่ผ่านมาปี2562นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในประเทศไทยถึง40ล้านคนครั้งปีนี้ทั้งปีหลายส่วนมองว่านักท่องเที่ยวไม่ถึง10ล้านแล้ว

เดิมทีหวังว่าถ้าวิคซีลมาภายในไตรมาสที่3ไตรมาสที่4เริ่มกลับมาเที่ยวแตภาพตรงนั้นมันได้หายไปแล้วมีแต่ภาพค่าเฉลี่ยที่ประเมิลมาได้ก็คือ4.5%

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย   www.ufabet.com ลูกค้าลองเข้าผ่านลิ้งนี้นะค่ะ

โครงการจับคู่เงินกู้

       โครงการจับคู่เงินกู้  เป็นโครงการที่เพิ่งเปิดตัวใหม่เมื่อไม่นานมานี้ซึ่งโครงการนี้จะเปิดให้ร้านค้าที่ได้รับผลกระทบนับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19  สามารถที่จะทำการกู้เงินจากสินเชื่อของธนาคารต่างๆ

เพื่อให้ร้านค้านั้นมีเงินทุนหมุนเวียนที่จะทำมาหากิน

เปิดกิจการร้านค้าขายสินค้าได้โดยโครงการนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ซึ่งมันจะสามารถทำให้ประชาชนคนไทยนั้นกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกตินั่นเอง

     ในช่วงเวลานี้เราจะเห็นได้ว่าเจ้าของร้านอาหารส่วนใหญ่นั้นกำลังประสบปัญหากับสถานการณ์ของการระบาดของไวรัสโควิด-19 แน่นอนว่ากิจการร้านอาหารนั้นหากพูดถึงในแง่เรื่องของเศรษฐกิจและธุรกิจนั้นก็มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ

โครงการจับคู่เงินกู้ ซึ่งถ้าหากร้านอาหารสามารถดำเนินธุรกิจไปได้จะส่งผลเกี่ยวพันไปถึงธุรกิจอื่นๆตามมาอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรก็จะมีการขายผลผลิตให้กับร้านอาหารเช่นการขายผักการขายเนื้อสัตว์รวมถึงผลไม้

        นอกจากนี้ยังสามารถช่วยส่งเสริมเรื่องของธุรกิจการท่องเที่ยวได้ด้วยเพราะเมื่อมีการเปิดการท่องเที่ยวร้านอาหารก็เป็นสิ่งจำเป็นที่นักท่องเที่ยวต้องการเช่นเดียวกันเพราะถ้าหากไปเที่ยวอย่างเดียวแต่ไม่มีร้านอาหารเปิดเลยก็ไม่สามารถเปิดธุรกิจการท่องเที่ยวได้ดังนั้นสิ่งต่างๆเหล่านี้จึงมีความสัมพันธ์กันอย่างไรก็ตามปัจจุบันจะเห็นได้ว่ารัฐบาลนั้นได้ออกมาช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจยังไม่ได้ครบทุกสายอาชีพ

อย่างเช่นธุรกิจร้านอาหารเองนั้นก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางรัฐบาลซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ร้านอาหารต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลนั่นก็คือเงินที่จะสามารถช่วยเหลือในการให้ธุรกิจดำเนินการต่อไปได้

         สำหรับการช่วยเหลือด้านการเงินของรัฐบาลนั้น

แน่นอนว่าถ้าเป็นต่างประเทศจะมีการช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจด้วยการจ่ายเงินชดเชยให้ตามจำนวนยอดเงินที่ได้รับผลกระทบแต่สำหรับประเทศไทยที่การช่วยเหลือด้านการเงินนั้นค่อนข้างมีความจำกัดจึงสามารถช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจได้ด้วยการหาแหล่งเงินทุนให้จึงได้เกิดโครงการจับคู่เงินกู้ขึ้นมาซึ่งโครงการนี้จะทำให้เจ้าของธุรกิจร้านอาหารสามารถที่จะติดต่อธนาคาร

เพื่อเจรจาขอกู้สินเชื่อหรือหากเป็นหนี้กับทางธนาคารอยู่ก็สามารถที่จะพักเงินต้นหรือพักดอกเบี้ยได้ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับบรรดาเจ้าของร้านอาหารได้จนกว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัส covid จะดีขึ้น 

        สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการที่มีการเปิดตัวเรียบร้อยแล้วซึ่งจะสามารถทำให้ร้านอาหารนั้นมีลมหายใจต่อไปได้โดยโครงการนี้ได้มีการประสานงานกับสถาบันทางการเงินทั้งในส่วนภูมิภาคและในเขตภาคกลางรวมทั้งสิ้น 5 สถาบันด้วยกัน

โครงการนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนไปจนถึงวันที่ 20 เดือนมิถุนายนปีพศ 2564 ซึ่งแน่นอนว่าเงื่อนไขของการเข้าร่วมโครงการจับคู่กู้เงินนี้จะต้องทำการตรวจสอบธนาคารที่ร่วมโครงการและร้านอาหารที่จะร่วมโครงการนั้นสามารถติดต่อกับสมาคมไหนได้บ้าง

 

สนับสนุนโดย.   ufabetฝ่ายบริการ

ถึงโลกการทำธุรกิจจะเปลี่ยนไป คุณก็ไม่ต้องกลัวถ้าธุรกิจของคุณทำสิ่งนี้

การทำธุรกิจ เราต้องกลับมาทำความเข้าใจก่อนว่า  การจะทำให้ธุรกิจของเราสามารถซื้อใจผู้บริโภคได้ เราต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างเรากับลูกค้าก่อน ไม่ใช่เพียงแค่การส่งมอบสินค้ารวมไปถึงบริการที่ดีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการจัดการเมื่อเจอกับวิกฤตต่าง ๆ ที่อาจทำให้แบรนด์ ผู้คน บริษัท รวมไปถึงชื่อเสียงเสียหายได้ 

           ดังนั้นเราจะมาแนะนำวิธีรับมือเมื่อแบรนด์กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤต จะทำอย่างไรไม่ให้การพลั้งพลาดเพียงครั้งเดียว ทำแบรนด์พังตลอดกาล!

เริ่มต้นด้วยการ ลองมาวางแผนแบบเรียบเรียงสถานการณ์แบบเป็นขั้นตอน! เพราะสิ่งแรกที่แบรนด์ควรต้องทำนั่นก็คือ การวางแผนจำลองสถานการณ์การแก้ไขเมื่อเกิดวิกฤตที่เป็นขั้นเป็นตอนการจัดการเมื่อเจอวิกฤตภายใน 24 ชั่วโมงแรก

            ซึ่งกำหนดความเป็นความตายของแบรนด์ไว้เลยก็ว่าได้ และสิ่งสำคัญคือการกอบกู้ชื่อเสียงหรือความรู้สึกของลูกค้าเมื่อถูกแบรนด์ทำลายลงไป และตรงนี้แหละคือสิ่งสำคัญเลยก็ว่าได้ แต่ถึงแม้ว่าอย่างไรก็ตาม

ถ้าหากแบรนด์ไม่อยากให้เหตุการณ์วิกฤตทำแบรนด์พังไปตลอด วันนี้ Genbox ก็เลยจะมาแนะนำแนวทางการวางแผนรับมือวิกฤต หรือ Crisis Management Framework ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลักๆ จะมีอะไรบ้างไปลุยกันเลย!

อันดับแรกคือ เตรียมพร้อมแรงกระแทกทุกรอบด้าน 

ซึ่งวิธีการวางแผนป้องกันคือ จัดตั้งทีมเพื่อรับมือสถานการณ์วิกฤตโดยเฉพาะ (Core Crisis Team) การลำดับวิกฤติประเภทต่างๆ ของบริษัทเป็น 3 ระดับ ตั้งแต่เขียว เหลือง แดง รวมไปถึงวางการรับมือแต่ละแบบ

การทำคู่มือการรับมือ ฐานข้อมูลกลาง ลำดับการค้นหาต้นเหตุ และผู้รับผิดชอบในแต่ละส่วน ซึ่งเรื่องทั้งหมดรวมไปถึงพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อกำหนดขอบเขตของภาวะวิกฤต เพื่อให้ทุกคนในองค์กรเข้าใจถึงความสำคัญของการจัดการวิกฤตนี้ด้วย

อันดับสองคือ เผ้าระวังความเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียล

วางขั้นตอนการสังเกตและติดตามเสียงบนโซเชียล เช่น การตั้งทีม Social Moderation การวางแผนทำ Guideline คำถาม คำตอบของลูกค้าในหลายสถานการณ์ กำหนดลักษณะการใช้คำพูดตอบโต้กับลูกค้าให้เป็นรูปแบบเดียวกัน รวมถึงให้ความสำคัญกับการฝึกฝนฝ่ายดูแลลูกค้า (Customer Service) ในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ 

อีกทั้งยังสามารถใช้เครื่องมือ Social Listening Tools และ การวางลำดับการแจ้งเตือนปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเพื่อประเมินสถานการณ์ภายในเวลาไม่กี่นาที

อันดับสามคือลงมือแก้ปัญหา

เป็นขั้นตอนหลังการแจ้งเตือนการเกิดวิกฤต ซึ่งต้องผ่านการประเมินว่าสถานการณ์รุนแรงมากแค่ไหน เช่น กระแสบนโซเชียลเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมืออย่าง Social Listening Tools ที่สามารถดึงข้อมูลมาวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อช่วยจัดการวิกฤตต่อไป 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย   ufabet ฝากเงิน ออโต้

ทางการออสเตรเลียเร่งตรวจสอบสวนพบว่ามีข่าวประเทศจีนแบนสินค้านำเข้า 7 ประเภท

        เร่งตรวจสอบสินค้านำเข้า   มีข่าวลือหนาหูมากในช่วงนี้เกี่ยวกับเรื่องขอกันส่งสินค้าไปขายระหว่างประเทศออสเตรเลียกับประเทศจีนด้วยเท้าหรือนั้นระบุว่าเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรของประเทศจีนนั้นมีการตรวจเข้มสำหรับสินค้าที่จะนำเข้ามาขายที่ประเทศจีน

โดยเฉพาะสินค้านั้นเป็นสินค้าของประเทศออสเตรเลียและ  มีงานลางานแถวออกมาว่าในตอนนี้ประเทศออสเตรเลียเองก็มีการระงับการส่งสินค้ามาที่ประเทศจีนเช่นเดียวกันโดยสินค้าที่มีปัญหาอยู่นั้นตอนนี้มีอยู่ด้วยกัน 7 ประเภท  อย่างเช่นทางการเอาเซรั่มต้องการส่งกุ้งรอสเตอร์มาที่ประเทศจีน 

         ส่วนสาเหตุนั้นก็เพราะว่าเมื่อมีการตรวจสอบควบคุมเครื่องจักรกรมศุลกากรของประเทศจีนการส่งกุ้งล็อบสเตอร์มากว่าจะผ่านกรมศุลกากรนั้นต้องใช้ระยะเวลานานดังนั้นกว่าสินค้าซึ่งเป็นกุ้งซึ่งเป็นสัตว์ที่ยังมีชีวิต

เร่งตรวจสอบสินค้านำเข้า อยู่กว่าจะไปถึงมือลูกค้าก็ทำให้กุ้งตายและทางด้านร้านค้าก็ไม่รับสินค้าที่เป็นกุ้งตายทำให้ออสเตรเลียสูญเสียรายได้เป็นอย่างมากดังนั้นสินค้า 1 ประเภทที่มีปัญหาอยู่ในตอนนี้ก็คือกุ้งล็อบสเตอร์ที่ประเทศออสเตรเลียจะมีการระงับการส่งออกมาให้ประเทศจีน

นอกจากนี้ยังมีสินค้าอีกหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นข้าวบาร์เลย์หรือแม้แต่ไวน์

อีกทั้งยังมีเลยเรื่องของแร่ทองแดง  แล้วก็ถ่านหินรวมถึงน้ำตาลและไม้ก็ถูกแช่แข็งเกี่ยวกับเรื่องของการตัดสินใจการส่งออกมาขายเนื่องจากว่าสินค้าเหล่านี้ทางกรมศุลกากรของประเทศจีนนั้นตรวจสอบนานมากทำให้ ผู้ส่งออกของประเทศออสเตรเลียเองก็เกิดความไม่พอใจเช่นเดียวกัน

         อย่างไรก็ตามในตอนนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของออสเตรเลียกำลังหารือกันว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรเนื่องจากเบื้องต้นทางรัฐบาลจีนเองก็ไม่ออกมาพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ว่าเกิดได้อย่างไรและจะแก้ไขอย่างไร 

ซึ่งทำให้ขนาดนี้ทั้งประเทศจีนและประเทศออสเตรเลียต่างก็อยู่ในสภาวะความตึงเครียด

และมีแนวโน้มด้วยว่าสินค้าที่ส่งมาจากประเทศออสเตรเลียอีกหลายรายการอาจจะมีปัญหาในอนาคตเช่นเดียวกัน    เนื่องจากว่าในขณะนี้จีนได้มีการระงับสินค้าบางส่วนที่ต่างประเทศออสเตรเลียส่งมาขายให้กับประเทศจีน

             สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเรียกได้ว่าเป็นปัญหาระหว่างประเทศเลยทีเดียวคงต้องดูว่าสถานการณ์จะเลวร้ายมากไปกว่านี้หรือไม่ถ้าหากว่าทางการจีนยังมีการระงับการนำเข้าสินค้าของประเทศออสเตรเลียมากยิ่งขึ้นเชื่อว่าผลกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจจะมีมากขึ้นกว่าเดิม  เพราะในขณะนี้เชื่อว่าประเทศออสเตรเลียเอง

ก็เกิดความไม่พอใจกับการกระทำของประเทศจีนอย่างมากเลยทีเดียวที่มีการตรวจเข้มจนทำให้สินค้าได้รับความเสียหายและไม่สามารถส่งสินค้าถึงร้านค้าได้และยังมีสินค้าบางอย่างที่ทางจีนเองไม่ยอมให้นำเข้าได้เลย  ดังนั้นทางที่ดีที่สุดจึงจำเป็นต้องหาแนวทางแก้ไขระหว่างทั้งสองประเทศก่อนที่เรื่องจะลุกลามไปมากกว่านี้

 

สนับสนุนโดย.  ufabet ฝาก-ถอน เอง

ปลายปี พ.ศ. 2564 เจ็ดเส้นทางรถไฟทางคู่ ขอนแก่น-หนองคายกำลังจะกลับมา

        เจ็ดเส้นทางรถไฟทางคู่   ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีโครงการการจัดทำเส้นทางรถไฟคู่ขนานโดยมีความคิดว่าจะมีการเปิดเส้นทางการเดินรถเพิ่มเพื่อที่จะได้เดินทางได้อย่างสะดวกโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆที่มักจะเกิดปัญหารถติดอีกทั้งยังเป็นการเปิดหนทางที่เราจะสามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศอื่นๆได้

ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีนหรือประเทศลาวเพื่อที่จะสามารถขนส่งสินค้าผ่านทางรถไฟและรถยนต์ได้นั่นเองซึ่งโครงการนี้ในเฟสแรกนั้นได้มีการสร้างรอไปก่อนแล้วบางส่วนและมีการหยุดชะงักลงมาเป็นเวลานานแล้ว

แต่ในขณะนี้กำลังมีการยื่นเรื่องเข้ามาที่สหพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติใหม่อีกครั้งหนึ่งเพื่อทำเรื่องขอการกลับมาสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่อีกรอบนึงโดยครั้งนี้จะเป็นการสร้างเส้นทางคู่ระหว่างขอนแก่นกับหนองคายซึ่งถ้าสร้างเสร็จแล้ว

มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะมีการเชื่อมต่อเส้นทางออกไปยังประเทศจีนกับประเทศลาวได้ซึ่งถ้าหากทำได้แล้วเสร็จ 100% ก็จะทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างไทยไปยังจีนหรือไทยไปยังราวนั้นสะดวกสบายมากขึ้น

เจ็ดเส้นทางรถไฟทางคู่  และแน่นอนว่าด้วยการคมนาคมที่ดีขึ้นและทำให้การค้าขายระหว่างประเทศทั้งไทยทั้งจีนและลาวค้าขายได้คล่องขึ้นง่ายขึ้นส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้นนั่นเองเพราะปัจจุบันนี้ปัญหาของการค้าขายระหว่างประเทศนั้นอีกในเรื่องของการขนส่งที่ต้องเสียค่าขนส่งแพง

เนื่องจากถ้าเป็นการขนส่งผ่านทางอากาศก็จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงแต่ถ้าขนส่งทางเรือถึงแม้ว่าค่าขนส่งจะถูกหน่อยแต่ก็ใช้ระยะเวลาในการขนส่งนานดังนั้นการทำเส้นทางขนส่งทางบกโดยมีการทำเป็นรถไฟหรือทำถนนเพิ่มขึ้นมา

จะช่วยลดระยะเวลาในการขนส่งได้และค่าใช้จ่ายก็ยังถูกกว่าการขนส่งทางอากาศอีกด้วยจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้นักธุรกิจต่างๆหันกลับมาเปิดธุรกิจระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้นเพราะต้นทุนในการขนส่งนั้นลดน้อยลงนั่นเองอย่างไร

ก็ตามในเรื่องของการสร้างถนนคู่ขนานนี้อาจจะต้องใช้ระยะเวลาหลายปีกว่าจะมีการแล้วเสร็จซึ่งมีการคาดการณ์ว่าน่าจะช่วงประมาณปี 2580 ประเทศไทยและประเทศลาวรวมถึงประเทศจีนจึงจะสามารถเชื่อมต่อถนนเส้นต่างๆที่มีการวางอนาคตไว้นี้แล้ว

เสร็จซึ่งขณะนี้ทางด้านกระทรวงคมนาคมกำลังเปิดให้มีการประมูลโครงการนี้อยู่ว่าใครที่จะสามารถเป็นผู้ได้รับการประมูลและได้สร้างถนนเส้นทางนี้เพราะอย่าลืมว่าถ้าหากประมูลผ่านก็จะได้เงินเป็นจำนวนมหาศาลจากการสร้างถนนหนทางเส้นรถไฟทางคู่นี้เลยทีเดียว

นับได้ว่าโครงการที่จะสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่นั้นเป็นโครงการระยะยาวซึ่งต้องใช้จำนวนเงินมากมายมหาศาลแต่ถ้าหากสร้างเสร็จได้ก็จะทำให้ระบบการขนส่งระหว่าง 3 ประเทศนั้นสะดวกสบายและครบวงจรเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.   gclub slot เล่นผ่านเว็บ

เปิดให้ต่างชาติเข้าไทยได้เมื่อไหร่ โรงแรมในไทยบูมทันที

           เปิดให้ต่างชาติเข้าไทยได้เมื่อไหร่  กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในขณะนี้กับเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศไทยโดยมีหลายฝ่ายมองว่าประเทศไทยควรจะมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยได้แล้ว

เพื่อที่ต้องการให้เงินหมุนเวียนในประเทศไทยมากขึ้นจะได้ส่งผลให้เศรษฐกิจของไทยนั้นดีขึ้นเพราะหลายคนนั้นมองว่าขณะนี้ประเทศไทยถือว่าเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่จะเดินทางมาอยู่เพราะประเทศไทยนั้น

สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสได้ซึ่งชาวต่างชาติมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเรื่องของสาธารณสุขของประเทศไทยเพราะตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของไวรัสโคโรน่ามาประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ทำให้ไม่มีผู้ติดเชื้อเยอะมาก

นักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในกลุ่มทวีปยุโรปและอเมริกาเอเชียประเทศไทยก็ถือได้ว่าเป็นอันดับต้นๆที่ด้านสาธารณสุขนั้นได้ผลอย่างยอดเยี่ยมทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยนั้นน้อยมากดังนั้นกลุ่มคนมีเงินในต่างประเทศจึงอยากเดินทางมาประเทศไทย

โดยมาอาศัยเช่าโรงแรมหรือคอนโดอยู่แบบนานๆเพราะอยากจะหนีการระบาดของไวรัสในประเทศของตนเองมาอยู่ในประเทศที่ปลอดภัยซึ่งเขาเหล่านั้นสามารถที่จะมาพักอยู่ในเมืองไทยได้แบบนานโดยที่พวกเขาสามารถที่จะทำงานผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้

ซึ่งถ้าหาการคาดการณ์นี้เป็นเรื่องจริงสถานที่ท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นจังหวัดภูเก็ตหรือที่พัทยาระยองหรือแม้แต่หัวหินก็จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่จะต้องรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะมากเลยทีเดียวและสถานการณ์เศรษฐกิจของจังหวัดต่างๆเหล่านั้น

ก็จะหมดไปเราว่าชาวต่างชาติที่เป็นกลุ่มคนรวยนั้นสามารถเอาเงินมาใช้จ่ายในประเทศไทยได้เยอะโดยไม่มีปัญหาทางการเงินและนั่นจะเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากปัญหาเศรษฐกิจได้เร็วขึ้นยังไงก็ตามก็มีหลายฝ่ายออกมาคัดค้านเช่นเดียวกัน

โดยมองว่าถึงแม้ว่าหากการปล่อยให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวในเมืองไทยจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นเร็วก็ตามแต่ก็เกรงผลกระทบที่จะตามมาว่าต่างชาติจะนำเชื้อไวรัสโคโรนาเข้ามาระบาดในเมืองไทยซึ่งขณะนี้ประเทศไทยสามารถควบคุมมันได้แล้ว

จึงไม่อยากที่จะเกิดเหตุการณ์การระบาดของไวรัสรอบ 2 เพราะเชื่อว่าถ้าหากมันมีการระบาดรอบ 2 ได้เมื่อไหร่ผลกระทบจะรุนแรงมากกว่ารอบแรกหลายเท่าตัวนัดแต่อย่างไรก็ตามมันตอนนี้ก็ถือได้ว่าสถานการณ์ของประเทศไทยค่อนข้างเป็นปกติอย่างมาก

โดยประชาชนส่วนใหญ่แทบจะไม่ได้รู้สึกถึงการระบาดของไวรัสโคโรนาแล้วและถ้าหากเราสามารถคัดกรองคนเข้าประเทศรวมถึงดูแลระบบสาธารณสุขได้อย่างดีในทุกๆจังหวัด เชื่อว่าถึงแม้ชาวต่างชาติมาเที่ยว ประเทศไทยก็จะควบคุมการระบาดของไวรัสได้อยา่างแน่นอน และเมื่อนั้น โรงแรมในไทยก็จะมีรายได้มากเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.  ufabet ฝากถอน ไม่มีขั้นต่ำ ออโต้

ปัญหาขาดทุนการบินไทย จริงๆ แล้วอยู่ที่ตรงไหน

หลังจากที่มีข่าวมานานนับเดือนเกี่ยวกับสถานภาพของสายการบินไทยที่กำลังเข้าสู่กระบวนการยื่นล้มละลาย และกำลังจะดำเนินแผนการฟื้นฟูกิจการ ปัญหาขาดทุนการบินไทย ซึ่งผู้เกี่ยวข้องหลายๆฝ่ายต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็น

โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นการแสดงความคิดเห็นในเชิงโยนความผิดให้คนอื่นซะเป็นส่วนใหญ่ และมักจะบอกว่าที่สายการบินไทยประสบปัญหาการขาดทุนนั้นไม่ใช่เป็นเพราะการบริหารงานของรุ่นตัวเอง แต่เป็นมาตั้งแต่ต้น

ปัญหาขาดทุนการบินไทย หรือจะเป็นการออกมาบอกว่าเพราะโครงสร้างภายในมันเละ จนล่าสุดโยนความผิดไปถึงการที่โยนไปให้พวกเอเย่นต์ ว่ารวมตัวกันขอค่าคอมมิชชั่นกันมากเกินไป จนล่าสุดกลุ่มเอเย่นต์ยักษ์ใหญ่หลายๆบริษัท ได้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมและได้อธิบายถึงความเป็นจริง

ที่ทำธุรกิจกับสายการบินไทยมาอย่างยาวนานแล้วว่า เดิมพวกเค้าเองนั้นจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากหน้าตั๋ว 9% ต่อมามีการปรับลดเหลือ 7% ในปี 2000

และเหลือ 0% ในปี 2008 ภายใต้นโยบาย Zero Commission ซึ่งนั้นหมายความว่าพวกเค้าไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นนี้มาเกือบ 10 ปีแล้ว

จนทุกวันนี้รายได้ที่เกิดจะมาจากการคิดค่าบริการจากลูกค้าแทนต่างหาก และทั้งนี้ในปี 2019 การบินไทยมียอดขายตั๋วทั่วโลกอยูที่ประมาณ 130 พันล้านบาท คิดเป็นยอดขายของประเทศไทยประมาณ 31 พันล้านบาท

ซึ่งแบ่งเป็นยอดขายผ่านเอเย่นต์ 16 พันล้านบาท คือ 52%

และยอดขายผ่าน Web การบินไทย 9 พันล้านบาท (29%) และยอดขายผ่านสำนักงานการบินไทย 6 พันล้านบาท (19%) โดยจากรายงานที่ทางการบินไทยทำสรุปมานั้น มีหลายจุดที่ทำให้เอเย่นต์ต่างตั้งข้อสงสัยที่โยนปัญหาขาดทุนมาให้พวกเค้านั้น คือ

การขายตั๋วโดยการบินไทยเองที่อ้างถึง 30% นั้นไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่มีสัดส่วนขายโดยการบินไทยเอง

ค่าคอมมิชชั่นเอเย่นต์ที่ได้มากล่าวอ้างว่าต้องจ่ายให้ถึง 18 พันล้านบาทนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะเป็นจำนวนที่สูงกว่ายอดขายผ่านเอเย่นต์ทั้งหมดที่รวมกันแล้วได้แค่ 16 พันล้านบาทเสียอีก

ซึ่งการโยนความผิดและไม่รับผิดชอบว่าสายการบินไทยเองที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้มันเกิดขึ้นมา ทั้งในเรื่องของวิสัยทัศน์ในการบริหารของผู้นำองค์กรแต่ละรุ่นก็ดี ปัญหาโครงสร้างที่ถูกฝังรากลึกกับผลประโยชน์ของเหล่าพนักงานรุ่นอาวุโส ที่คอยเกาะกินแทะเล็มผลประโยชน์

จนรากงอก ไม่เปิดโอกาสให้พนักงานรุ่นใหม่ที่มีไฟในการทำงานเข้ามาทำงานแทนที่ หรือแม้แต่ปัญหาที่เอื้อเอเย่นต์ชาวต่างชาติ มากกว่าเห็นค่าของเอเย่นต์ ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทยด้วยกันเองนั้น แค่นี้ก็เพียงพอแล้วว่าทำไมสายการบินไทย ที่เกิดปัญหาเช่นนี้ตลอดมา

 

สนับสนุนโดย.   gclub slot เล่นผ่านเว็บ

หุ้นไทยถูกชาวต่างชาติทยอยขาย จนตอนนี้มียอดการถือหุ้นของชาวต่างชาติต่ำสุดในรอบ 6 ปี

           นับได้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลก หุ้นไทยถูกชาวต่างชาติทยอยขาย ส่งผลอย่างรุนแรงกับประชาชนทั่วโลกรวมถึงประชาชนคนไทยด้วยเช่นเดียวกันนอกจากเศรษฐกิจของแต่ละประเทศจะได้รับปัญหาแล้ว

การที่นักลงทุนจะเสี่ยงไปลงทุนยังต่างประเทศก็มีการชะลอตัวเอาไว้มากอีกด้วย

และแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่การชะลอการลงทุนอย่างเดียวเพียงเท่านั้นแต่บางประเทศที่มีการไปลงทุนยังต่างประเทศเอาไว้ก็มีการทยอยขายหุ้นยกเลิกการลงทุนในประเทศนั้นๆอีกด้วยอย่างเช่นประเทศไทยที่ตอนนี้กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก

เมื่อมีการใช้ข้อมูลย้อนหลังไปถึง 6 ปีพบว่าในปี พ.ศ.2563 นี้เป็นปีที่ประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตอย่างหนักเพราะนอกจากเศรษฐกิจจะไม่ดีแล้วชาวต่างชาติยังมีการถอนการลงทุนในประเทศไทยออกเป็นจำนวนมากอีกด้วยทำให้ตอนนี้ถ้าหากไปดูสถิติการถือครองหุ้นของชาวต่างชาติที่มีอยู่ในประเทศไทยนั้นมีหุ้นเหลือเพียงแค่ 26 เปอร์เซ็นต์เพียงเท่านั้นเอง

นับได้ว่าเป็นความเสียหายและแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศใดมาก่อน

ส่วนสาเหตุของการที่ทำให้หุ้นของประเทศไทยนั้นถูกเทขายอย่างต่อเนื่องจากชาวต่างชาตินั่นก็เพราะว่าสถานการณ์ของประเทศไทยนั้นยังไม่สงบดีเพราะนอกจากจะต้องมีการระแวงเกี่ยวกับเรื่องของการจะกลับมาระบาดของไวรัสโคโรน่าแล้วยังมีปัญหาภายในประเทศที่มีการประท้วงกับทางผู้นำของประเทศอีกทั้งประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศมหาอำนาจ

เช่นประเทศสหรัฐและจีนก็กำลังมีข้อพิพาทกันอยู่ดังนั้นนักลงทุนส่วนใหญ่จึงไม่กล้าเสี่ยงที่จะลงทุนกันมากนักเพราะเกรงว่าปัญหาสถานการณ์บ้านเมืองจะส่งผลกระทบต่อการถือหุ้นของพวกเขาที่อยู่ในต่างประเทศอีกทั้งยังมีเกี่ยวกับเรื่องของค่าเงินบาท

หุ้นไทยถูกชาวต่างชาติทยอยขาย และค่าเงินของต่างประเทศที่กำลังมีปัญหาอย่างเช่นของประเทศไทยเองก็พบปัญหาค่าเงินอ่อนตัวลงดังนั้นนักลงทุนส่วนใหญ่จึงเกิดความไม่ไว้วางใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในช่วงเวลานี้ที่สำคัญการเดินทางระหว่างประเทศนั้นยังไม่เอื้ออำนวยให้นักลงทุนสามารถเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

ได้จึงทำได้เพียงแค่การชะลอดูความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยว่าจะมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้นหรือไม่ซึ่งถ้าหากเศรษฐกิจกับมาดีขึ้นอย่างเร็วสถานการณ์การถือหุ้นในประเทศไทยของชาวต่างชาติก็น่าจะดีขึ้น

แต่ถ้าหากสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเศรษฐกิจยังคงทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่องรับรองว่าจากหุ้น 26 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือก็อาจจะเหลือเป็น 0% ในอนาคตก็เป็นไปได้ดังนั้นจึงต้องมอบอำนาจหน้าที่ให้กับทางผู้บริหารของทางรัฐบาลให้ดูแลเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาดีขึ้นให้เร็วเพื่อที่ชาวต่างชาติจะได้กลับมาสนใจประเทศไทยและมาลงทุนกลับประเทศไทยเหมือนเดิม

 

ได้รับการสนับสนุนโดย   gclub สล็อตฟรี

จดหมายจากเจ้าสัวซีพี

จดหมายจากเจ้าสัวซีพี หลังจากที่ผู้นำรัฐบาลไทย จนปัญญาในการแก้ไขปัญหาของประเทศไทย ถึงขนาดต้องร่อนจดหมายไปหามหาเศรษฐีต่างๆ ในเมืองไทย เพื่อขอแนวทางในการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น

ซึ่งล่าสุดเจ้าสัวซีพี ได้สอนบทเรียนให้กับผู้นำไทยได้นำไปปฎิบัติดังนี้ว่าให้รู้จักคิดบวก และเชื่อมั่นว่าเราใกล้จะสว่างแล้ว และควรมองไปข้างหน้าหากจะมานั่งรอให้ไข้โควิด19 หมดไปก่อนนั้นแล้วค่อยเริ่มทำจะสายเกินไป

โดยการทำธุรกิจและใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันนั้นต้องเปลี่ยนแปลงให้รวดเร็ว เพราะหากไม่เร่งปรับตัวให้ทัน แม้แต่ธุรกิจใหญ่ก็อาจจะล้มได้ แต่ก็เห็นด้วยกับการเปิดเมืองใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป และอยากขอแนะให้จัดทัวร์หนีตาย

ดึงเศรษฐีโลกเที่ยวไทย เพราะภาคท่องเที่ยวนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ และควรเริ่มโปรโมตั้งแต่ตอนนี้โดยเมื่อใดที่เรามีระบบสาธารณสุขที่ดี มีบุคลากรแพทย์ที่ดีเยี่ยมในการรับมือกับไข้ไวรัสนี้แล้ว ถ้าดูจากนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาไทยน่าจะมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด

รัฐบาลจึงควรนำเสนอการโฆษณาจุดแข็งของไทยไปตามสื่อทั่วโลก เพราะเวลานี้เศรษฐีในจีนอยู่บ้านมานานอยากท่องเที่ยว และประเทศไทย ก็เป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยวกันอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ดี การให้เข้ามาก็คงต้องคำนึงถึงเรื่องสุขภาพ

จดหมายจากเจ้าสัวซีพี โดยให้บริษัททัวร์ติดต่อกับโรงแรมระดับห้าดาวในต่างประเทศ แล้วพาเศรษฐีมาอยู่ที่โรงแรม มีแพทย์ไปตัวการติดเชื้อว่าไม่ได้เป็นโควิด หลังจากนั้นให้มาเที่ยวที่บ้านเราโดยกักตัว 14 วันในโรงแรมห้าดาว

โดยเปิดให้เขาเจอกันสังสรรค์กันได้ และเมื่อครบสิบสี่วัน ให้พาไปเที่ยวในที่ที่จัดเตรียมให้ เชื่อว่าเศรษฐีเหล่านี้อยากมาบ้านเรา เพราะประเทศของเรามีความสะดวกสบาย และเค้าพร้อมจะอยู่ยาว และใช้เงินเป็นจำนวนมาก เพราะประเทศของเราปลอดภัย และมีการรักษาพยาบาลที่ดีกว่า ทั้งนี้จุดที่กังวลที่สุดได้ผ่านมาแล้ว

คือช่วงที่จำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุด รัฐบาลในทำการปิดเมือง และมีคนแห่ออกไปต่างจังหวัดจำนวนมาก ซึ่งช่วงนั้นคิดว่าการแพร่ระบาดจะลุกลามทั่วประเทศ แต่รัฐบาลไทยก็พาเราฝ่าฟันกันมาได้ เวลานี้การทยอยเปิดเมืองเป็นหนทางที่เหมาะที่สุด

และหากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เชื่อว่าประเทศไทยจะมีแนวทางรักษา และควบคุมการแพร่ะระบาดได้โดยไม่ต้องกลับไปปิดเมืองอีกครั้ง และที่สำคัญจะต้องรักษาแรงงานและภาคธุรกิจไว้ไม่ให้ล้มละลาย ซึ่งเชื่อว่าหากรัฐบาลสามารถทำตามที่แนะนำได้นั้น จะเป็นการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจท่องเที่ยวให้กับมามีเม็ดเงินสะพัดอีกครั้งอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย.   gclubฟรี500